ข้าววรรณภพ จำหน่ายข้าวออนไลน์ ข้าวเติมวิตามิน สะอาดไม่ต้องซาว

ข้าววรรณภพ จำหน่ายข้าวออนไลน์ ข้าวเติมวิตามิน สะอาดไม่ต้องซาว

นโยบายความเป็นส่วนตัว

เรียน ลูกค้าผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน

1. ข้อตกลงทั่วไป

เนื่องจากบริษัท วรรณภพ จำกัด (“บริษัท”) ซึ่งเป็นผู้บริหารจัดการเว็บไซต์ www.shop.wonnapob.com (“เว็บไซต์”) ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้มอบให้แก่บริษัทด้วยความไว้วางใจ บริษัทจึงจะใช้วิธีการที่เหมาะสมเพื่อจัดการ คุ้มครอง และดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

นโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ข้อตกลงการใช้งานบนเว็บไซต์ นโยบายการใช้คุกกี้บนเว็บไซต์ และข้อตกลงการซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ (ในกรณีที่ท่านซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์) ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือท่านให้เข้าใจถึงวิธีการของบริษัทที่ใช้ในการจัดเก็บ การนำไปใช้ การเปิดเผย และ/หรือ การดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล

เว้นแต่กรณีที่มีกฎหมายจำกัดไว้ ท่านตกลงให้บริษัทดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลตามวิธีการและวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ในข้อตกลงที่ระบุในข้อ 2 ข้างต้น

2. ข้อมูลส่วนบุคคลคืออะไร?

  • ข้อมูลส่วนบุคคล คือ ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับบุคคล ซึ่งสามารระบุตัวของบุคคลนั้นได้ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวไม่รวมถึงข้อมูลของบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว
  • ตัวอย่างของข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ เลขประจำตัวประชาชน ข้อมูลติดต่อ ข้อมูลทางการแพทย์ ภาพถ่าย และวิดีโอ ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บอย่างไร
  • ตัวอย่างสถานการณ์ที่บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีดังนี้:
    • เมื่อท่านสมัครบัญชีผู้ใช้ในเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น หรือจุดให้บริการ
    • เมื่อท่านกรอกข้อมูลลงในใบสั่งซื้อสินค้า คำร้องขอ หรือคำขอเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัท (โดยวิธีการทางโทรศัพท์ ต่อหน้า อีเมล์ หรือวิธีการอื่นทางอิเล็กทรอนิกส์)
    • เมื่อท่านซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์
    • เมื่อท่านติดต่อกับบริษัทโดยตรงเกี่ยวกับสินค้าและบริการ (ผ่านทางศูนย์บริการลูกค้าของบริษัท หรือพนักงานภายในบริษัท ทางอีเมล์ ทางโทรศัพท์ หรือโดยวิธีการอื่นๆ)
    • เมื่อท่านใช้บริการที่มีอยู่ในเว็บไซต์
    • เมื่อท่านทำธุรกรรมบางประเภท เช่น การรับเงินคืน
    • เมื่อท่านเข้าร่วม และติดต่อกับบริษัทเมื่อบริษัทจัดให้มีโปรโมชั่น การแข่งขัน การประกวด การจับสลากชิงโชค หรือกิจกรรมพิเศษ
    • เมื่อท่านสมัครเข้าทำงานกับบริษัท
    • เมื่อท่านสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท
    • เมื่อท่านเข้าร่วมในการสำรวจความคิดเห็น หรือการค้นคว้าวิจัยในรูปแบบอื่น

3. ข้อมูลส่วนบุคคลถูกเก็บเมื่อใด? และข้อมูลส่วนบุคคลอะไรบ้างที่ถูกเก็บ?

  • ท่านสามารถเข้าใช้และสืบค้นเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน การให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปตามความสมัครใจ อย่างไรก็ตาม หากท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท บริษัทอาจไม่สามารถจัดหาสินค้าและบริการตามที่ท่านต้องการได้
  • บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลผ่านการลงทะเบียน การสั่งซื้อ การกรอกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม อีเมล์ แบบสอบถาม คำขอ และสถานการณ์อื่นๆ ตามที่ท่านเลือกจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแก่บริษัท
  • ตัวอย่างประเภทข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจจัดเก็บจากท่านมีดังนี้:
    • ข้อมูลการติดต่อ เช่น ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ และอีเมล์
    • ข้อมูลเกี่ยวกับการอยู่อาศัย เช่น ขนาดที่อยู่อาศัย ลักษณะ และสภาพความเป็นอยู่
    • ข้อมูลที่ใช้สำหรับการแจ้งค่าบริการ เช่น ที่อยู่สำหรับจัดส่งใบแจ้งค่าบริการ และข้อมูลบัตรเครดิต
    • ข้อมูลเฉพาะบุคคล เช่น เลขประจำตัวประชาชน หรือเลขหนังสือเดินทาง รูปถ่าย ช่องทางการติดต่อที่สะดวก และวันเกิด
    • รายละเอียดการเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท
    • รายละเอียดการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ เช่น ข้อมูลการเคลื่อนไหวของท่าน (Traffic Data) ข้อมูลสถานที่ และวิธีการที่ท่านเข้าถึงเว็บไซต์ และประวัติการทำธุรกรรมของท่าน

4. การจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

กฎหมายกำหนดให้บริษัทจัดเก็บข้อมูลที่มีการเคลื่อนไหวของท่านเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 90 วันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท และบริษัทรับรองว่าภายหลังระยะเวลาดังกล่าว ข้อมูลการเคลื่อนไหวของท่านจะถูกทำลาย หรือถูกแปลงเป็นข้อมูลนิรนามทันที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ตามที่กำหนดในข้อ ( 11. )

5. วัตถุประสงค์ของการเก็บ ใช้ เปิดเผย และดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคล

  • ท่านอาจต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัทในบางสถานการณ์ (เช่น ข้อมูลของญาติสนิท หรือบุคคลอื่นที่อาจรับสินค้าที่สั่งซื้อแทนท่าน หรือบุคคลอื่นที่ท่านระบุให้เป็นผู้ถูกอ้างอิง (Referee) ของท่าน ในกรณีที่ท่านสมัครเข้าทำงานกับบริษัท) ในกรณีดังกล่าว บริษัทถือว่าท่านได้รับรองและยืนยันกับบริษัทว่าท่านได้รับความยินยอมจากบุคคลภายนอกสำหรับการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลนั้นแก่บริษัท เพื่อให้บริษัทดำเนินการตามที่ระบุไว้ในข้อ 2 ข้างต้นกับข้อมูลดังกล่าวแล้ว
  • บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่จำเป็นสำหรับการดำเนินกิจกรรมหรือการประกอบธุรกิจตามปกติของบริษัท
  • ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทจัดเก็บจากท่านจะถูกเก็บ นำไปใช้ เปิดเผย และ/หรือ นำไปดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่บริษัทอาจ/จำเป็นที่จะต้องดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้:
    • เพื่อติดต่อสื่อสารกับท่าน
    • เพื่อรักษาและพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกค้า
    • เพื่อประเมิน ดำเนินการ และจัดหาสินค้า บริการ และ/หรือ สิ่งอำนวยความสะดวกแก่ท่าน
    • เพื่อจัดการ และดำเนินการชำระเงิน (รวมถึงการคืนเงิน) เกี่ยวกับสินค้า บริการ และสิ่งอำนวยความสะดวกตามที่ท่านร้องขอ
    • เพื่อจัดให้มีข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลและประวัติของท่าน
    • เพื่อโต้ตอบการสอบถามหรือการร้องเรียนของท่าน และเพื่อแก้ปัญหาและข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการติดต่อกับบริษัท
    • เพื่อให้บริการ หรือให้การช่วยเหลือตามที่ท่านร้องขอ
    • เพื่อให้ข้อมูล และ/หรือรายการอัพเดทเกี่ยวกับสินค้า บริการ โปรโมชั่นที่บริษัทกำลังจะจัดขึ้น และ/หรือ กิจกรรมที่จัดโดยบริษัทและบุคคลภายนอกที่ได้รับการคัดเลือกโดยบริษัทซึ่งท่านอาจให้ความสนใจเป็นครั้งคราว
    • เพื่อวัตถุประสงค์ในการทำการตลาดโดยตรง ผ่านทางข้อความโทรศัพท์ (SMS) โทรศัพท์ อีเมล์ โทรสาร สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และ/หรือ ช่องทางการติดต่ออื่นๆ ในกรณีที่ท่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกิจกรรมต่าง ของบริษัท และวิธีการอื่นใดตามที่ท่านยินยอม
    • เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรมของท่าน และการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ ของบริษัท ซึ่งรวมถึงการประกวด การส่งเสริมการขาย หรือแคมเปญต่างๆ
    • เพื่อให้คะแนนหรือรางวัลในกิจกรรมของบริษัท
    • เพื่อรักษาและจัดเก็บบันทึกข้อมูลภายในของบริษัทให้เป็นปัจจุบัน
    • เพื่อการบริหารภายในของบริษัท
    • เพื่อส่งคำอวยพรในโอกาสต่างๆ
    • เพื่อส่งคำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม โปรโมชั่น และการเปิดตัวสินค้า
    • เพื่อตรวจสอบ พิจารณา และปรับปรุงกิจกรรม โปรโมชั่น สินค้าและ/หรือ บริการของบริษัท
    • เพื่อดำเนินการตรวจสอบการอ้างอิงฐานะทางการเงินและความน่าเชื่อถือของท่านในกรณีที่จำเป็น เมื่อบริษัทจัดหาสินค้า บริการ และ/หรือสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน
    • เพื่อจัดการ ดำเนินการ และทำให้การทำธุรกรรมพาณิชย์ของท่านกับบริษัทสำเร็จ (เช่น การซื้อสินค้าทางเว็บไซต์ การชิงรางวัล สัญญาจ้าง หรือสัญญาเช่า)
    • เพื่อดำเนินการชำระเงินเกี่ยวกับธุรกรรมพาณิชย์ที่ท่านทำกับบริษัท
    • เพื่อดำเนินการและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในรูปแบบรายบุคคลหรือรายกลุ่มร่วมกับบุคคลอื่น
    • เพื่อทำการวิจัยตลาด หรือการสำรวจความคิดเห็น การวิเคราะห์การตลาดภายในการจัดทำข้อมูลลูกค้า การวิเคราะห์รูปแบบและทางเลือกของลูกค้า การวางแผนและการวิเคราะห์ทางสถิติ และแนวโน้มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและ/หรือบริการของบริษัท
    • เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้สอบบัญชีสำหรับการตรวจสอบและการรายงานบัญชีภายในของบริษัท
    • เพื่อนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่ท่านทำกับบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการขอคำแนะนำทางกฎหมาย และ/หรือ คำแนะนำทางการเงิน และ/หรือ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย
    • เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับผู้ร่วมธุรกิจของบริษัท เพื่อการพัฒนาสินค้า และ/หรือ บริการ หรือการจัดทำแคมเปญส่งเสริมการขายร่วมกัน
    • เพื่อแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับสถาบันการเงิน เพื่อวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ ในกรณีที่จำเป็น
    • เพื่อการตรวจสอบทางบัญชี การบริหารความเสี่ยง และความมั่นคง
    • เพื่อตรวจสอบ สืบสวน และป้องกันการฉ้อโกง การกระทำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย หรือการกระทำผิดกฎหมาย
    • เพื่อให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามหน้าที่ของบริษัทและสามารถบังคับตามสิทธิที่บริษัทมีตามสัญญา หรือเอกสารใดๆ ที่บริษัทเป็นคู่สัญญา
    • เพื่อโอนสิทธิ ผลประโยชน์ และหน้าที่ของบริษัทตามสัญญาใดๆ ที่เข้าทำกับบริษัท
    • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้มีการเปิดเผยตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ คำสั่งศาล แนวทาง หนังสือเวียน หรือมาตรการที่บังคับใช้กับบริษัท
    • เพื่อบังคับตามสิทธิ หรือปกป้องสิทธิของบริษัทหรือสิทธิของท่าน โดยให้สอดคล้องกับหน้าที่ของบริษัทภายใต้กฎหมาย กฎ และข้อบังคับที่บังคับใช้
    • เพื่อพิสูจน์และตรวจสอบประวัติของท่าน โดยการพิสูจน์และตรวจสอบดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนในการรับสมัครและคัดเลือกพนักงานให้เข้าทำงานกับบริษัท และ/หรือ
    • เพื่อวัตถุประสงค์อื่นๆ ที่จำเป็นในการดำเนินการ การรักษา และการบริหารจัดการธุรกิจของบริษัท รวมทั้งเพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทดีขึ้นโดยบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงกรณีดังกล่าวเมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน
  • วัตถุประสงค์ในการที่บริษัทอาจหรือจะทำการรวบรวม นำไปใช้ เปิดเผย หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านขึ้นอยู่กับสถานการณ์ต่างๆ โดยวัตถุประสงค์ดังกล่าวอาจไม่ถูกระบุอยู่ในข้อกำหนดข้างต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงวัตถุประสงค์นั้นๆ เมื่อบริษัทได้รับความยินยอมจากท่านสำหรับการดำเนินการดังกล่าว เว้นแต่กรณีที่กฎหมายอนุญาตให้บริษัทดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากท่านก่อน

6. กรณีเฉพาะที่บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลแก่บุคคลที่สาม

  • เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น หรือเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ที่บริษัทมีต่อท่าน บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทต่อผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม ตัวแทน บริษัทในเครือ หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องที่ตั้งอยู่ภายในหรือภายนอกประเทศไทย เพื่อวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่ระบุหรือได้แจ้งต่อท่านตามการแจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บ นำไปใช้ เปิดเผย และดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลแก่ท่าน นอกจากนี้บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ แนวทาง ระเบียบ หรือระบบการจัดการที่บังคับใช้กับบริษัท
  • ตัวอย่างบุคคลที่สามที่บริษัทจะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้ทราบ มีดังนี้:
    • ผู้ให้บริการนำเข้าข้อมูล (Data entry service providers)
    • ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ผู้ให้คำปรึกษา และ/หรือ ผู้ตรวจสอบบัญชีภายนอก
    • ผู้ให้บริการเก็บรักษาและคลังสินค้า (อาจรวมถึงผู้ให้บริการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลซึ่งอยู่ต่างประเทศ)
    • ผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลที่สาม เช่น ผู้ให้บริการด้านการบริหารหรือด้านการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท เช่น การสื่อสารโทรคมนาคม เทคโนโลยีสารสนเทศโลจิสติกส์ การส่งสินค้า การประกอบ การติดตั้ง การพิมพ์ การบริการทางไปรษณีย์ หรือบริการด้านการตลาด และกิจกรรมส่งเสริมการขาย
    • เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง
    • บุคคลภายนอกซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายงานข้อมูล หรือผู้ให้บริการจัดหางานในกรณีที่การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการรับสมัครและคัดเลือกพนักงานเข้าทำงานและ/หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรับสมัครงานของบริษัท
  • บุคคลที่สามที่บริษัทดำเนินธุรกิจด้วยมีสิทธิในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อดำเนินการตามที่กำหนดไว้ในสัญญาที่ทำกับบริษัทเท่านั้น โดยข้อกำหนดส่วนหนึ่งของสัญญาที่บริษัททำกับบุคคลที่สามเหล่านี้กำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องปฏิบัติตามกฎหมายและนโยบายใดๆ ตามที่บริษัทกำหนด และบุคคลเหล่านี้จะต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อทำให้เกิดความมั่นใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะได้รับการคุ้มครองและปลอดภัย
  • บริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะไม่ขายข้อมูลดังกล่าวแก่บุคคลภายนอก

7. การขอเข้าถึง และ/หรือ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล

  • ท่านสามารถขอเข้าถึง และ/หรือ แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งอยู่ในความครอบครองหรือภายใต้การควบคุมของบริษัท โดยส่งอีเมล์ถึงบริษัทได้ที่ wonnapob@wonnapob.com
  • เมื่อมีการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องให้แก่ท่านภายในกำหนดเวลา 30 (สามสิบ) วัน นับแต่มีการส่งคำขอถึงบริษัท
  • กรณีที่บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามกำหนดระยะเวลาข้างต้นได้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงเวลาที่เร็วที่สุดที่บริษัทจะสามารถดำเนินการดังกล่าวได้
  • เมื่อมีการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะดำเนินการดังต่อไปนี้:
    • แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลโดยเร็วที่สุดนับแต่ได้รับคำขอ เว้นแต่บริษัทจะมีเหตุผลอันสมควรที่จะไม่ดำเนินการเช่นนั้น และ
    • ภายใต้บังคับข้อ 24 ด้านล่างนี้ บริษัทจะนำส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่แก้ไขแล้วให้แก่องค์กรที่บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลไปยังองค์กรนั้นภายในระยะเวลาหนึ่งปีก่อนที่จะมีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เว้นแต่องค์กรนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมาย หรือทางธุรกิจ
  • ในกรณีที่ท่านยินยอม บริษัทอาจส่งข้อมูลส่วนบุคคลที่แก้ไขแล้วไปยังองค์กรหนึ่งองค์กรใดเป็นการเฉพาะซึ่งบริษัทได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่องค์กรนั้นภายในหนึ่งปีก่อนวันที่มีการแก้ไข
  • บริษัทอาจกำหนดค่าธรรมเนียมเพื่อชดเชยต้นทุนการบริหารของบริษัท ทั้งนี้ ค่าธรรมเนียมดังกล่าวขึ้นอยู่กับขอบเขตและลักษณะของงานที่จำเป็นในการดำเนินการตามคำขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งจะได้รับการประเมินเป็นรายกรณีโดยเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (Data Protection Officer) ในกรณีที่มีการกำหนดค่าธรรมเนียมดังกล่าว บริษัทจะจัดส่งประมาณการค่าธรรมเนียมเป็นหนังสือให้ท่านพิจารณา ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านเมื่อท่านตกลงชำระค่าธรรมเนียม ในบางกรณีบริษัทอาจให้ท่านวางมัดจำก่อนที่บริษัทจะดำเนินการตามคำขอเข้าถึงข้อมูล ในกรณีดังกล่าวบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบพร้อมหนังสือประมาณการค่าธรรมเนียม
  • ท่านรับทราบว่าบริษัทถือว่าท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกต้องและครบถ้วน และหากมีการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลดังกล่าวคือข้อมูลล่าสุด บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์หากข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท และ/หรือกรณีที่ท่านแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอันทำให้ข้อมูลที่ท่านให้ไว้แก่บริษัทเป็นข้อมูลที่ไม่ใช่ข้อมูลล่าสุด

8. การขอเพิกถอนถอนความยินยอม

  • ท่านอาจเพิกถอนความยินยอมที่ท่านให้แก่บริษัทสำหรับการจัดเก็บ นำไปใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท โดยส่งคำขอเพิกถอนเป็นอีเมล์ถึงบริษัทได้ที่ wonnapob@wonnapob.com
  • บริษัทจะดำเนินการตามคำขอของท่านสำหรับการเพิกถอนความยินยอมตามระยะเวลาที่เหมาะสม และบริษัทจะไม่จัดเก็บ นำไปใช้ และ/หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามวิธีการที่ระบุไว้อีกต่อไป
  • การเพิกถอนความยินยอมอาจทำให้เกิดผลบางอย่างตามมา เช่น บริษัทอาจไม่สามารถจัดหาสินค้าหรือบริการตามที่ท่านร้องขอ หรือบริษัทอาจไม่สามารถคงความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทต่อไปได้ ทั้งนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงผลของการเพิกถอนความยินยอมภายหลังจากที่บริษัทได้รับคำร้องขอเพิกถอนความยินยอม
  • อย่างไรก็ตาม ท่านรับทราบว่าแม้ท่านได้เพิกถอนความยินยอมแล้ว บริษัทยังคงมีสิทธิจัดเก็บ นำไปใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีจำเป็นหรือได้รับอนุญาตตามกฎหมาย

9. การคุ้มครองและการทำลายข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะจัดให้มีการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อรับรองแก่ท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้รับการคุ้มครองและรักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ บริษัทจะใช้มาตรการการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บ การใช้ การเปิดเผย การคัดลอก การดัดแปลง การรั่วไหล การสูญหาย ความเสียหาย และ/หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม บริษัทจะไม่รับผิดชอบในกรณีที่บุคคลภายนอกใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเนื่องมาจากเหตุที่บริษัทไม่สามารถควบคุมได้
  • บริษัทจะจัดให้มีมาตรการ เพื่อรับรองแก่ท่านว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่อยู่ในความครอบครองหรืออยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัทจะถูกทำลาย และ/หรือ ถูกทำให้เป็นข้อมูลนิรนามโดยทันทีในระยะเวลาที่เหมาะสม เมื่อ
    • ข้อมูลส่วนบุคคลที่จัดเก็บไว้ไม่เป็นประโยชน์ต่อวัตถุประสงค์ของการจัดเก็บอีกต่อไป
    • การเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไม่จำเป็นต่อวัตถุประสงค์ทางกฎหมายหรือทางธุรกิจอีกต่อไป

10. ขั้นตอนการร้องเรียน

  • หากท่านต้องการร้องเรียนเกี่ยวกับการดูแลจัดการข้อมูลส่วนบุคคลหรือการปฏิบัติตามกฎหมาย ท่านสามารถร้องเรียนต่อบริษัทได้โดยการส่งอีเมล์ไปยัง wonnapob@wonnapob.com
  • บริษัทจะดำเนินการแก้ไขตามที่ได้รับการร้องเรียนอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

11. ติดต่อบริษัท

ท่านสามารถติดต่อบริษัท (หรือส่งแบบฟอร์มคำขอหรือคำร้องเรียน) โดยไปรษณีย์ หรืออีเมล์ตามที่อยู่ดังต่อไปนี้:

เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูล (Data Protection Officer)

บริษัท วรรณภพ จำกัด ตั้งอยู่ทีเลขที่ 234 หมู่ 3 ตำบลบางคูเวียง อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130 ประเทศไทย

หมายเลขโทรศัพท์: 02-805-3230-1 อีเมล์: wonnapob@wonnapob.com

12. ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  • บริษัทจะทบทวนนโยบาย ขั้นตอน และกระบวนการของบริษัทเป็นระยะๆ เพื่อรับรองว่าบริษัทมีการจัดการ การป้องกัน และการดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสม
  • บริษัทขอสงวนสิทธิในการแก้ไขข้อกำหนดตามนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ตามดุลยพินิจของบริษัทฝ่ายเดียว เมื่อบริษัททำการแก้ไขข้อกำหนดตามนโยบายนี้ บริษัทจะประกาศลงบนเว็บไซต์ ซึ่งท่านสามารถเข้าชมได้ที่ www.shop.wonnapob.com
  • หากท่านยังคงเข้าใช้บริการในเว็บไซต์ต่อไปภายหลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะถือว่าท่านรับทราบและตกลงตามข้อกำหนดที่แก้ไขเปลี่ยนแปลงแล้ว ด้วยเหตุนี้ บริษัทแนะนำให้ท่านเข้าตรวจสอบเว็บไซต์ดังกล่าวเป็นครั้งคราวเพื่อให้มั่นใจว่าท่านได้รับทราบนโยบายคุ้มครองส่วนบุคคลฉบับล่าสุด

ข้อมูล ณ วันที่ 23 เมษายน 2565